เยอรมันซิวอันดับ3บอลโลกเฉือนอุรุกวัย3:2
ฟุตบอลโลก 2010 ชิงอันดับ 3
วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม 2553
Hilight
Uruguay 2-3 Germany (Highlights)
Ricardo | MySpace Video
ศึกฟุตบอลโลก 2010 ชิงอันดับ 3 อุรุกวัย ลงสนามพบ เยอรมัน สำหรับสถิติการพบกันในทุกรายการของฟีฟ่าที่ผ่านมา 8 ครั้ง อุรุกวัย ไม่เคยชนะ เยอรมัน ได้แม้แต่ครั้งเดียว เป็นการเสมอ 2 ครั้ง ส่วน 6 ครั้งที่เหลือเป็นชัยชนะของทีม "อินทรีเหล็ก" ทั้งหมด
โยอาคิม เลิฟ มีอาการป่วยเป็นไข้หวัดไม่ได้นำลูกทีมลงซ้อมเมื่อวานที่ผ่านมา ในส่วนของตัวผู้เล่น ฟิลิปส์ ลาห์ม, ลูคัส โพดอลสกี้ ที่รายงานระบุว่ามีอาการไข้เช่นเดียวกันนั้น ไม่มีชื่อลงสนาม ขณะที่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บบริเวณหลัง คาเคา ได้รับโอกาสให้ลงทำหน้าที่แทนส่วน โทมัส มุลเลอร์ ดาวรุ่งฟอร์แรงพ้นโทษแบนกลับมาแล้วได้ลงเป็นตัวจริงในเกมนี้
ออสการ์ ตาบาเรซ กุนซือมากฝีมือของ อุรุกวัย หมายมั่นเต็มที่ว่าจะคว้าอันดับ 3 ให้ได้เกมนี้ ในส่วนของตัวผู้เล่นข่าวดีคือ หลุยส์ ซัวเรส พ้นโทษแบนเกมที่แล้วจากกรณีที่ใช้มือปัดบอลเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย กลับมาลงล่าตาข่ายประสานงานกับ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน กองหน้าตัวเก่ง ที่เรียกคืนสภาพความฟิตกลับมาทันอีกครั้ง
อุรุกวัยในชุดสีฟ้าเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่น บุกจากซ้ายไปขวา มาได้ลุ้นในนาทีที่ 6 จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะหวังผล ฟอร์ลัน รับหน้าที่สังหารซัดไปโดนมือ คาเคา ผู้ตัดสินให้ อุรุกวัย ได้ฟรีคิกอีกครั้ง ฟอร์ลัน คึนเดิมรับหน้าที่สังหารปั่นบอลข้ามกำแพงหลุดกรอบออกหลัง
เยอรมัน ได้ลูกเตะมุมทางขวาในนาทีที่ 10 เมซุต โอซิล เปิดเลยมาที่เสาไกล อาร์เน่ ฟรีดิช กองหลังที่เติมเกมขึ้นมา ขึ้นโขกบอลชนคานเด้งเข้าทาง มุลเลอร์ โขกซ้ำอีกครั้งโดนแนวรับ อุรุกวัย เคลียร์ออกมาได้
ประตูแรกของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 19 และก็เป็น เยอรมัน ที่ทำได้! ชไวน์สไตเกอร์ ได้บอลหน้าเขตโทษสับไกยิงระยะราว 30 หลาบอลพุ่งเข้ากรอบ มุสเลร่า รับกระเฉาะ โทมัส มุลเลอร์ วิ่งตามเข้ามาซ้ำไม่มีเหลือ เยอรมัน ขึ้นนำ 1:0
0-1 Muller 19'
อุรุกวัย ไล่ตีเสมอเป็น 1:1 ในช่วงไม่ถึง 10 นาที!! เกมคอนโทรลกันตรงกลางสนาม เปไรร่า กวาดแย่งบอลได้จากเท้าของ ชไวน์สไตเกอร์ ก่อนจะแทงขึ้นหน้ามาให้ ซัวเรส จ่ายออกซ้ายให้ เอดิสัน คาวานี่ จิ้มผ่านมือ ฮันส์-ยอร์ก บุทท์ เข้าไป
1-1 Cavani 28'
นาทีที่ 44 เยอรมัน มาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลหน้าประตูจากจังหวะทำแฮนด์บอลของ ดีเอโก้ ลูกาโน่, บาสเตีย ชไวน์สไตเกอร์ รับหน้าที่สังหารซัดบอลติดกำแพงแฉลบออกหลัง ทดเวลาบาดเจ็บ 1 นาทีไม่มีการทำประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเสมอกันอยู่ที่สกอร์ 1:1
ครึ่งหลัง
เขี่ยลูกเริ่มเล่นในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่เปลี่ยนตัวผู้เล่น อุรุกวัย ได้ลุ้นในนาทีที่ 49 ดีเอโก้ ฟอร์ลัน แทงบอลออกซ้าย คาวานี่ ยิงติดเซฟ ฮันส์-ยอร์ก บุทท์ เกี่ยวกลับมาได้ปล่อยให้ ซัวเรส ซัดก็ยังไม่ผ่าน ยอร์ก บุทท์
กลายเป็น อุรุกวัย ที่พลิกขึ้นนำ 2:1 นาทีที่ 51 เกมขึ้นมาทางขวา อเรวาโร่ ริออส ผ่านเข้ามาให้ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน วอลเลย์กดลงพื้นบอลผ่านมือ ฮันส์-ยอร์ก บุทท์ เข้าประตูไป!
2-1 Forlan 51'
เยอรมัน ไม่ยอมง่ายๆ ไล่ตีเสมอเป็น 2:2 ในนาทีที่ 57 เจโรม บัวเต็ง ผ่านจากขวาเข้ามากลาง เฟอร์นานโด มุสเลร่า ออกมาตัดไม่ถึงบอล มาร์แซล แยนเซ่น โขกเข้าไปไม่มีเหลือ สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้ง
2-2 Jansen 56'
นาทีที่ 80 เยอรมัน ขึ้นเกมมาทางขวา บัวเต็ง เติมเกมรุกเปิดเข้ามากลาง สเตฟาน คีสส์ลิงก์ ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาพุ่งโขกไปถึงบอลหลุดออกหลัง
นาทีที่ 82 เยอรมัน ได้ประตูขึ้นนำ 3:2 จากจังหวะลูกเตะมุมบอลตกกลางประตูไม่พ้นเขตอันตราย ซามี่ เคห์ดิร่า อาศัยจังหวะชุลมุนโขกเสยส่งบอลกองก้นตาข่าย
2-3 Khedira 82'
นาทีที่ 88 เยอรมัน ทำเกมสวนกลับต่อกันขึ้นมาอย่างสวยงาม มุลเลอร์ ผ่านเข้ามาในเขตโทษให้ คีสส์ลิงก์ ซัดโดนใต้ลูกบอลโด่งข้ามคาน
อุรุกวัย มาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลช่วงทดเจ็บ! ดีเอโก้ ฟอร์ลัน รับหน้าที่สังหารปั่นด้วยขวาบอลข้ามกำแพงโดนคานจังๆ พลาดตีโอกาสเสมออย่างน่าเสียดาย ผู้ตัดสินเป่าจบเกมเป็น เยอรมัน ที่เอาชนะ อุรุกวัย ไปได้ 3:2 คว้าอันดับ 3 ไปครอง
ฟุตบอลโลก 2010 ชิงอันดับ 3
วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม 2553
Hilight
Uruguay 2-3 Germany (Highlights)
Ricardo | MySpace Video
ศึกฟุตบอลโลก 2010 ชิงอันดับ 3 อุรุกวัย ลงสนามพบ เยอรมัน สำหรับสถิติการพบกันในทุกรายการของฟีฟ่าที่ผ่านมา 8 ครั้ง อุรุกวัย ไม่เคยชนะ เยอรมัน ได้แม้แต่ครั้งเดียว เป็นการเสมอ 2 ครั้ง ส่วน 6 ครั้งที่เหลือเป็นชัยชนะของทีม "อินทรีเหล็ก" ทั้งหมด
โยอาคิม เลิฟ มีอาการป่วยเป็นไข้หวัดไม่ได้นำลูกทีมลงซ้อมเมื่อวานที่ผ่านมา ในส่วนของตัวผู้เล่น ฟิลิปส์ ลาห์ม, ลูคัส โพดอลสกี้ ที่รายงานระบุว่ามีอาการไข้เช่นเดียวกันนั้น ไม่มีชื่อลงสนาม ขณะที่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บบริเวณหลัง คาเคา ได้รับโอกาสให้ลงทำหน้าที่แทนส่วน โทมัส มุลเลอร์ ดาวรุ่งฟอร์แรงพ้นโทษแบนกลับมาแล้วได้ลงเป็นตัวจริงในเกมนี้
ออสการ์ ตาบาเรซ กุนซือมากฝีมือของ อุรุกวัย หมายมั่นเต็มที่ว่าจะคว้าอันดับ 3 ให้ได้เกมนี้ ในส่วนของตัวผู้เล่นข่าวดีคือ หลุยส์ ซัวเรส พ้นโทษแบนเกมที่แล้วจากกรณีที่ใช้มือปัดบอลเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย กลับมาลงล่าตาข่ายประสานงานกับ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน กองหน้าตัวเก่ง ที่เรียกคืนสภาพความฟิตกลับมาทันอีกครั้ง
อุรุกวัยในชุดสีฟ้าเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่น บุกจากซ้ายไปขวา มาได้ลุ้นในนาทีที่ 6 จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะหวังผล ฟอร์ลัน รับหน้าที่สังหารซัดไปโดนมือ คาเคา ผู้ตัดสินให้ อุรุกวัย ได้ฟรีคิกอีกครั้ง ฟอร์ลัน คึนเดิมรับหน้าที่สังหารปั่นบอลข้ามกำแพงหลุดกรอบออกหลัง
เยอรมัน ได้ลูกเตะมุมทางขวาในนาทีที่ 10 เมซุต โอซิล เปิดเลยมาที่เสาไกล อาร์เน่ ฟรีดิช กองหลังที่เติมเกมขึ้นมา ขึ้นโขกบอลชนคานเด้งเข้าทาง มุลเลอร์ โขกซ้ำอีกครั้งโดนแนวรับ อุรุกวัย เคลียร์ออกมาได้
ประตูแรกของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 19 และก็เป็น เยอรมัน ที่ทำได้! ชไวน์สไตเกอร์ ได้บอลหน้าเขตโทษสับไกยิงระยะราว 30 หลาบอลพุ่งเข้ากรอบ มุสเลร่า รับกระเฉาะ โทมัส มุลเลอร์ วิ่งตามเข้ามาซ้ำไม่มีเหลือ เยอรมัน ขึ้นนำ 1:0
0-1 Muller 19'
อุรุกวัย ไล่ตีเสมอเป็น 1:1 ในช่วงไม่ถึง 10 นาที!! เกมคอนโทรลกันตรงกลางสนาม เปไรร่า กวาดแย่งบอลได้จากเท้าของ ชไวน์สไตเกอร์ ก่อนจะแทงขึ้นหน้ามาให้ ซัวเรส จ่ายออกซ้ายให้ เอดิสัน คาวานี่ จิ้มผ่านมือ ฮันส์-ยอร์ก บุทท์ เข้าไป
1-1 Cavani 28'
นาทีที่ 44 เยอรมัน มาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลหน้าประตูจากจังหวะทำแฮนด์บอลของ ดีเอโก้ ลูกาโน่, บาสเตีย ชไวน์สไตเกอร์ รับหน้าที่สังหารซัดบอลติดกำแพงแฉลบออกหลัง ทดเวลาบาดเจ็บ 1 นาทีไม่มีการทำประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเสมอกันอยู่ที่สกอร์ 1:1
ครึ่งหลัง
เขี่ยลูกเริ่มเล่นในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่เปลี่ยนตัวผู้เล่น อุรุกวัย ได้ลุ้นในนาทีที่ 49 ดีเอโก้ ฟอร์ลัน แทงบอลออกซ้าย คาวานี่ ยิงติดเซฟ ฮันส์-ยอร์ก บุทท์ เกี่ยวกลับมาได้ปล่อยให้ ซัวเรส ซัดก็ยังไม่ผ่าน ยอร์ก บุทท์
กลายเป็น อุรุกวัย ที่พลิกขึ้นนำ 2:1 นาทีที่ 51 เกมขึ้นมาทางขวา อเรวาโร่ ริออส ผ่านเข้ามาให้ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน วอลเลย์กดลงพื้นบอลผ่านมือ ฮันส์-ยอร์ก บุทท์ เข้าประตูไป!
2-1 Forlan 51'
เยอรมัน ไม่ยอมง่ายๆ ไล่ตีเสมอเป็น 2:2 ในนาทีที่ 57 เจโรม บัวเต็ง ผ่านจากขวาเข้ามากลาง เฟอร์นานโด มุสเลร่า ออกมาตัดไม่ถึงบอล มาร์แซล แยนเซ่น โขกเข้าไปไม่มีเหลือ สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้ง
2-2 Jansen 56'
นาทีที่ 80 เยอรมัน ขึ้นเกมมาทางขวา บัวเต็ง เติมเกมรุกเปิดเข้ามากลาง สเตฟาน คีสส์ลิงก์ ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาพุ่งโขกไปถึงบอลหลุดออกหลัง
นาทีที่ 82 เยอรมัน ได้ประตูขึ้นนำ 3:2 จากจังหวะลูกเตะมุมบอลตกกลางประตูไม่พ้นเขตอันตราย ซามี่ เคห์ดิร่า อาศัยจังหวะชุลมุนโขกเสยส่งบอลกองก้นตาข่าย
2-3 Khedira 82'
นาทีที่ 88 เยอรมัน ทำเกมสวนกลับต่อกันขึ้นมาอย่างสวยงาม มุลเลอร์ ผ่านเข้ามาในเขตโทษให้ คีสส์ลิงก์ ซัดโดนใต้ลูกบอลโด่งข้ามคาน
อุรุกวัย มาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลช่วงทดเจ็บ! ดีเอโก้ ฟอร์ลัน รับหน้าที่สังหารปั่นด้วยขวาบอลข้ามกำแพงโดนคานจังๆ พลาดตีโอกาสเสมออย่างน่าเสียดาย ผู้ตัดสินเป่าจบเกมเป็น เยอรมัน ที่เอาชนะ อุรุกวัย ไปได้ 3:2 คว้าอันดับ 3 ไปครอง