ดาบิด บียา เป็นฮีโรซัดประตูชัยนาที 82 ช่วยให้ "กระทิงดุ" สเปน เฉือนเอาชนะ ปารากวัย 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบก่อนรองชนะเลิศ
ปารากวัย 0-1 สเปน
hilight
Highlights Paraguay vs Spain
Perry | MySpace Video
ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ รอบก่อนรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง ปารากวัย พบกับ สเปน ที่สนามเอลลิส พาร์ค ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดย เคราร์โด มาร์ติโน โค้ชปารากวัย มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นถึง 6 คนจากเกมนัดที่แล้วและเปลี่ยนจากระบบ 4-3-3 มาเล่น 4-4-2 แทน เนลสัน วัลเดซ ยืนหน้าคู่กับ ออสการ์ คาร์โดโซ ทางฝั่ง บีเซนเต เดล บอสเก กุนซือสเปน ใช้ผู้เล่นชุดเดิม เฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนหน้าเป้า มี ดาบิด บียา และ อันเดรส อิเนียสตา ทำเกมริมเส้น
เปิดฉากครึ่งแรกไม่ถึงนาที ปารากวัย ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ เนลสัน วัลเดซ จ่ายบอลให้ โจนาธาน ซานตานา หลุดขึ้นมายิงบริเวณกรอบเขตโทษบอลไปตรงตัว อีเคร์ กาซิยาส รับเข้าซอง แต่หลังจากนั้นทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวังจนมีโอกาสลุ้นทำประตูคู่แข่งไม่มากนัก
โดย สเปน เป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า แต่เจอความเหนียวแน่นของแนวรับ ปารากวัย จนลุ้นยิงประตูแบบชัดเจนไม่ได้ ต้องรอกระทั่งนาที 28 จึงมาได้โอกาสแบบใกล้เคียงที่สุดเมื่อ ชาบี อลอนโซ ตัดบอลได้จากคู่แข่ง ก่อนจ่ายมาให้ ชาบี เฮอร์นานเดซ กลับตัววอลเลย์บริเวณหน้าเขตโทษข้ามคานออกไปนิดเดียว
เกมดำเนินไปแบบอึดอัดจนเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ปารากวัย เกือบเป็นฝ่ายทำประตูออกนำจากจังหวะฟรีคิกทางกราบขวา ก่อนที่ วัลเดซ จะได้บอลในเขตโทษแบบไม่มีใครประกบแล้วซัดสวนตัว กายิซาส ตุงตาข่าย แต่ถูกผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า เนื่องจาก ออสการ์ คาร์โดโซ ล้ำหน้าจังหวะก่อนหน้านี้ สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0
เกมครึ่งหลัง สเปน มาพลาดเสียจุดโทษเมื่อเกมผ่านมาถึงนาที 57 เมื่อ เคราร์ด ปีเก ไปดึงแขน คาร์โดโซ ล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ คาร์โดโซ จะลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเอง แต่ปรากฎว่า กาซิยาส เดาถูกทางสามารถล้มตัวรับได้ทำให้ "กระทิงดุ" ยังไม่ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อน
อีก 2 นาทีถัดมา เป็นทาง สเปน ที่มาได้จุดโทษบ้างจากการที่ ดาบิด บียา ถูก อันโตลิน อัลคาราซ ชนล้มลงในเขตโทษและ อลอนโซ รับหน้าที่สังหาร มิดฟิลด์รีล มาดริด ยิงครั้งแรกส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายเรียบร้อยไป แต่กรรมการมองว่ามีเพื่อนร่วมทีมวิ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนจึงให้ยิงใหม่ และครั้งที่สอง อลอนโซ ดันยิงไปติดเซฟ ยุสโต บียาร์ พลาดทำสกอร์ออกนำไป
หลังจากพลาดโอกาสทำประตูลูกทีมของ เดล บอสเก เดินหน้าทำเกมบุกต่อ มาถึงนาที 64 ในจังหวะโต้กลับเร็ว อันเดรส อิเนียสตา ได้สับไกด้วยขวาบริเวณเส้นเขตโทษถูก บียาร์ พุ่งปัดทิ้งออกหลังไป หลังจากนั้นนาที 74 กองหลังปารากวัยเคลียร์บอลไม่ขาด บอลกระดอนมาเข้าทาง ชาบี ตะบันจากนอกเขตโทษหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
กระทั่งนาที 82 ความพยายามของ สเปน ก็มาประสบผลสำเร็จจากจังหวะที่ อิเนียสตา กระชากบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ เปโดร ตัวสำรองที่ลงมาในช่วงครึ่งหลัง ซัดจังหวะแรกไปชนเสา แต่บอลยังมาเข้าทาง บียา ตามซ้ำดาบสองไม่พลาดให้แชมป์ยูโร 2008 ขยับสกอร์ออกนำ 1-0
0-1 David Villa 83' // Download
Paraguay 0-1 Spain
Perry | MySpace Video
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายทั้งสองทีมมีโอกาสลุ้นประตูฝั่งละครั้ง โดย ปารากวัย ได้ลุ้นจากสองกองหน้าตัวสำรอง ลูคัส บาร์ออส และ โรเก ซานตา ครูซ แต่ทั้งสองคนยิงไปติดเซฟ กาซิยาส ส่วน สเปน มาได้ลุ้นจาก บียา อีกครั้ง แต่ดาวยิงบาร์เซโลนาซัดไม่ผ่านมือนายด่านคู่แข่งเช่นกัน สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้จบ 90 นาที สเปน เฉือนชนะไป 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปารากวัย : ยุสโต บียาร์, ดาริโอ เวรอน, อันโตลิน อัลคาราซ, เปาโล ดา ซิลวา, เคลาดิโอ โมเรล โรดริเกซ, คริสเตียน ริเวรอส, วิคเตอร์ คาเซเรส, เอดการ์ บาร์เรโต, โจนาธาน ซานตานา, เนลสัน วัลเดซ, ออสการ์ คาร์โดโซ
สเปน : อีเคร์ กาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, คาร์เลส ปูโยล, เคราร์ด ปีเก, โจน คัพเดบียา, ชาบี, เซร์คิโอ บุสเกตส์, ชาบี อลอนโซ, อันเดรส อิเนียสตา, ดาบิด บียา, เฟร์นานโด ตอร์เรส
ออสการ์ คาร์โดโซ่ ยิงจุดโทษไปติดเซฟของ อีเกร์ กาซียาส
ชาบี อลอนโซ่ ซัดจุดโทษพลาดไปโดน ฮุสโต้ วีย่าร์ เซฟไว้ได้เช่นกัน
ดาบิด บีย่า ซัดประตูชัยให้ กระทิงดุ ชนะ 1-0 ทะลุรอบตัดเชือก
ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบก่อนรองชนะเลิศ
ปารากวัย 0-1 สเปน
hilight
Highlights Paraguay vs Spain
Perry | MySpace Video
ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ รอบก่อนรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง ปารากวัย พบกับ สเปน ที่สนามเอลลิส พาร์ค ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดย เคราร์โด มาร์ติโน โค้ชปารากวัย มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นถึง 6 คนจากเกมนัดที่แล้วและเปลี่ยนจากระบบ 4-3-3 มาเล่น 4-4-2 แทน เนลสัน วัลเดซ ยืนหน้าคู่กับ ออสการ์ คาร์โดโซ ทางฝั่ง บีเซนเต เดล บอสเก กุนซือสเปน ใช้ผู้เล่นชุดเดิม เฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนหน้าเป้า มี ดาบิด บียา และ อันเดรส อิเนียสตา ทำเกมริมเส้น
เปิดฉากครึ่งแรกไม่ถึงนาที ปารากวัย ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ เนลสัน วัลเดซ จ่ายบอลให้ โจนาธาน ซานตานา หลุดขึ้นมายิงบริเวณกรอบเขตโทษบอลไปตรงตัว อีเคร์ กาซิยาส รับเข้าซอง แต่หลังจากนั้นทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวังจนมีโอกาสลุ้นทำประตูคู่แข่งไม่มากนัก
โดย สเปน เป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า แต่เจอความเหนียวแน่นของแนวรับ ปารากวัย จนลุ้นยิงประตูแบบชัดเจนไม่ได้ ต้องรอกระทั่งนาที 28 จึงมาได้โอกาสแบบใกล้เคียงที่สุดเมื่อ ชาบี อลอนโซ ตัดบอลได้จากคู่แข่ง ก่อนจ่ายมาให้ ชาบี เฮอร์นานเดซ กลับตัววอลเลย์บริเวณหน้าเขตโทษข้ามคานออกไปนิดเดียว
เกมดำเนินไปแบบอึดอัดจนเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ปารากวัย เกือบเป็นฝ่ายทำประตูออกนำจากจังหวะฟรีคิกทางกราบขวา ก่อนที่ วัลเดซ จะได้บอลในเขตโทษแบบไม่มีใครประกบแล้วซัดสวนตัว กายิซาส ตุงตาข่าย แต่ถูกผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า เนื่องจาก ออสการ์ คาร์โดโซ ล้ำหน้าจังหวะก่อนหน้านี้ สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0
เกมครึ่งหลัง สเปน มาพลาดเสียจุดโทษเมื่อเกมผ่านมาถึงนาที 57 เมื่อ เคราร์ด ปีเก ไปดึงแขน คาร์โดโซ ล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ คาร์โดโซ จะลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเอง แต่ปรากฎว่า กาซิยาส เดาถูกทางสามารถล้มตัวรับได้ทำให้ "กระทิงดุ" ยังไม่ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อน
อีก 2 นาทีถัดมา เป็นทาง สเปน ที่มาได้จุดโทษบ้างจากการที่ ดาบิด บียา ถูก อันโตลิน อัลคาราซ ชนล้มลงในเขตโทษและ อลอนโซ รับหน้าที่สังหาร มิดฟิลด์รีล มาดริด ยิงครั้งแรกส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายเรียบร้อยไป แต่กรรมการมองว่ามีเพื่อนร่วมทีมวิ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนจึงให้ยิงใหม่ และครั้งที่สอง อลอนโซ ดันยิงไปติดเซฟ ยุสโต บียาร์ พลาดทำสกอร์ออกนำไป
หลังจากพลาดโอกาสทำประตูลูกทีมของ เดล บอสเก เดินหน้าทำเกมบุกต่อ มาถึงนาที 64 ในจังหวะโต้กลับเร็ว อันเดรส อิเนียสตา ได้สับไกด้วยขวาบริเวณเส้นเขตโทษถูก บียาร์ พุ่งปัดทิ้งออกหลังไป หลังจากนั้นนาที 74 กองหลังปารากวัยเคลียร์บอลไม่ขาด บอลกระดอนมาเข้าทาง ชาบี ตะบันจากนอกเขตโทษหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
กระทั่งนาที 82 ความพยายามของ สเปน ก็มาประสบผลสำเร็จจากจังหวะที่ อิเนียสตา กระชากบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ เปโดร ตัวสำรองที่ลงมาในช่วงครึ่งหลัง ซัดจังหวะแรกไปชนเสา แต่บอลยังมาเข้าทาง บียา ตามซ้ำดาบสองไม่พลาดให้แชมป์ยูโร 2008 ขยับสกอร์ออกนำ 1-0
0-1 David Villa 83' // Download
Paraguay 0-1 Spain
Perry | MySpace Video
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายทั้งสองทีมมีโอกาสลุ้นประตูฝั่งละครั้ง โดย ปารากวัย ได้ลุ้นจากสองกองหน้าตัวสำรอง ลูคัส บาร์ออส และ โรเก ซานตา ครูซ แต่ทั้งสองคนยิงไปติดเซฟ กาซิยาส ส่วน สเปน มาได้ลุ้นจาก บียา อีกครั้ง แต่ดาวยิงบาร์เซโลนาซัดไม่ผ่านมือนายด่านคู่แข่งเช่นกัน สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้จบ 90 นาที สเปน เฉือนชนะไป 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปารากวัย : ยุสโต บียาร์, ดาริโอ เวรอน, อันโตลิน อัลคาราซ, เปาโล ดา ซิลวา, เคลาดิโอ โมเรล โรดริเกซ, คริสเตียน ริเวรอส, วิคเตอร์ คาเซเรส, เอดการ์ บาร์เรโต, โจนาธาน ซานตานา, เนลสัน วัลเดซ, ออสการ์ คาร์โดโซ
สเปน : อีเคร์ กาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, คาร์เลส ปูโยล, เคราร์ด ปีเก, โจน คัพเดบียา, ชาบี, เซร์คิโอ บุสเกตส์, ชาบี อลอนโซ, อันเดรส อิเนียสตา, ดาบิด บียา, เฟร์นานโด ตอร์เรส