มาใหม่ล่าสุด


ติดตามดูคลิปฟุตบอลทางเฟสบุ๊ค ได้ที่หน้าแฟนเพจได้เลยนะครับ... www.facebook.com/clibfootball หรือตามลิงค์ด้านล่างครับ...เข้าไปแล้วช่วยกดไลค์ด้วยนะครับ... https://www.facebook.com/clibfootball

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Germany 0-1 Spain

"กระทิงดุ" สเปน ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก หลังจากที่เฉือนเอาชนะ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน 1-0 การ์เลส ปูโยล รับบทฮีโร่ โขกประตูชัย ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบรองชนะเลิศ เมือ่คืนที่ผ่านมา



ฟุตบอลโลก 2010 รอบรองชนะเลิศ
เมื่อวันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2553
เยอรมัน 0 - 1 สเปน

Hilight

Germany 0-1 Spain Highlights

Footy | MySpace Video



สนาม : เดอร์บัน สเตเดี้ยม (เดอร์บัน)



ทีมชาติเยอรมัน แชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัยปี 1954, 1974, 1990 ลงสนามปะทะ สเปน แชมป์ยูโร 2008 ที่ยังไม่เคยได้แชมป์เวิลด์ คัพ โดยเกมรอบรองชนะเลิศ บอลโลก 2010 คู่นี้เตะกันที่เดอร์บัน สเตเดี้ยม ในเมืองเดอร์บัน ถือเป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังจากสองยักษ์ใหญ่จากยุโรปพบกันในยูโร 2008 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่ง ทีมกระทิงดุคว้าชัย 1-0 จากประตูของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ซึ่งเขาเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ในวันนั้น และสำหรับผู้ชนะคู่นี้ จะผ่านเข้าไปเจอ ฮอลแลนด์ ในนัดชิงชนะเลิศที่โจฮันเนสเบิร์ก วันอาทิตย์ 11 กรกฎาคม ส่วนผู้แพ้จะชิงอันดับ 3 กับ อุรุกวัย วันเสาร์ 10 กรกฎาคมที่พอร์ท เอลิซาเบ็ธ

โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์เยอรมันที่สวมเสื้อคอวีสีน้ำเงิน เสื้อนำโชคซึ่งเขาใส่แล้วทีมชนะทุกนัด จัดการส่ง พิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ เล่นแทน โธมัส มุลเลอร์ ดาวรุ่งวัย 20 ปีที่ทำไปแล้ว 4 ประตู แต่เขาไม่สามารถลงเล่นนัดนี้ได้ เนื่องจากติดโทษแบน ขณะที่ ซามี่ เคดิร่า มิดฟิลด์หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวาลงเล่นได้ และ มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าตัวหลักยิงในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายไปแล้ว 14 ประตู ขาดเพียงประตูเดียวจะทำสถิติเท่ากับ โรนัลโด้ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติบราซิลที่ทำไว้ 15 ประตู ทางด้าน บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือสเปนดร็อป เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวสำรอง แล้วส่ง เปโดร โรดริเกซ ลงเล่น โดยมี ดาบิด บีย่า เป็นกองหน้าตัวหลัก และเขายิงไปแล้ว 5 ประตู นำดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2010 ร่วมกับ เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ สตาร์ฮอลแลนด์เวลานี้

เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 4 นาที ขณะที่นักเตะทั้งสองทีมกำลังแข่งขัน ได้มีแฟนบอลผู้ชายรายหนึ่งที่สวมเสื้อที-เชิร์ตสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ และถือแตรวูวูเซล่า วิ่งลงมาในสนาม ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องช่วยกันพาตัวออกไป จากนั้นทั้งสองทีมเตะกันต่อ และนาทีที่ 5 สเปนมีลุ้นที่จะได้ประตู เมื่อ เปโดร โรดริเกซ ผ่านบอลแม่นยำให้ ดาบิด บีย่า ยิงไปติด มานูเอล นอยเออร์ นายทวารที่วิ่งออกจากเส้นประตูเข้ามาบล็อคได้ทันเวลา

ทั้งสองทีมต่อบอลกันกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ และแล้วนาที 14 โอกาสเป็นของทีมกระทิงดุอีกครั้ง อันเดรส อิเนียสต้า โยนบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งขวามาเข้าหัว การ์เลส ปูโญล เซนเตอร์ฮาล์ฟขึ้นโหม่งข้ามคาน โดยนาทีต่อมา เยอรมันโต้กลับเร็ว เมซุต โอซิล เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวา บอลไซด์โค้งมาที่หน้าประตู อิเกร์ กาซิยาส นายทวารกัปตันทีมเซฟไว้ได้

นาที 19 เซร์คิโอ รามอส แบ็กขวาสเปนซัลโวจากบริเวณกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไป โดยทัพกระทิงดุยังเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า ขณะที่อินทรีเหล็กใช้จังหวะสวนกลับเร็วที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลุ้นทำประตู

จากนั้นนาที 27 เซร์คิโอ รามอส ไปย่ำเข้าที่ข้อเท้าซ้ายของ ลูคัส โพดอลสกี้ จนได้รับบาดเจ็บ โดย รามอส ไม่โดนใบเหลืองแต่อย่างใด และหลังจากได้รับการปฐมพยาบาล โพดอลสกี้ กลับมาเล่นต่อไปได้

สเปนแม้ครองบอลมากกว่า แต่ยังเจาะกองหลังเยอรมันเข้าไปทำประตูไม่ได้ ต้องใช้วิธีซัลโวระยะไกล นาที 30 ชาบี อลอนโซ่ ยิงเท้าขวาระยะไกล 30 หลาไม่เข้ากรอบ

เยอรมันเริ่มเดินเกมรุกได้มากกว่า พิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ ได้ยิงไกล 30 หลา นาที 32 ติด อิเกร์ กาซิยาส นายทวารกัปตันทีมปัดบอลออกเส้นหลังไปได้

ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทั้งสองทีมต่างมีโอกาสลุ้นทำประตู เปโดร โรดริเกซ ปีกซ้ายสเปนยิงไกลติด นอยเออร์ เซฟไว้ได้นาที 47 และนาทีต่อมา เซร์คิโอ รามอส เสียบเข้าที่ข้อเท้าของ เมซุต โอซิล ในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน วิคเตอร์ คาสไซ จากฮังการีไม่ได้เป่าให้เยอรมันได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใด จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง สเปน เดินหน้าบุกเข้าใส่นาที 48 เมื่อ เปโดร ลุยขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะไหลเข้ากลางให้ ชาบี อลอนโซ่ ซัดด้วยขวาแต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกหลัง

2 นาทีต่อมาแฟนกระทิงดุเกือบได้เฮอีกครั้งจากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ ไหลบอลให้ ชาบี อลอนโซ่ ตะบันด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

สเปน ยังคงดาหน้าบุกเข้าใส่นาที 55 เมื่อ อลอนโซ่ ไหลบอลให้ ดาบิด บีย่า ยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษแต่บอลไม่เข้ากรอบ

กระทิงดุน่าจะได้ประตูอีกครั้งในนาที 58 จากจังหวะที่ อิเนียสต้า ลุยเข้าไปในเขตโทษก่อนจะเปิดไปเสาสอง บีย่า พยายามเข้าชาร์จแต่ไม่ทันบอลผ่านหน้าประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย

เยอรมัน พยายามหาโอกาสบุกนาที 60 กองหลัง สเปน โหม่งสกัดบอลมาเข้าทาง มิโรสลาฟ โคลเซ่ เอี่ยวตัววอลเลย์แต่บอลข้ามคาน

สเปน ยังคงบุกได้น่ากลัวนาที 63 ชาบี อลอนโซ่ โยนบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษให้ เซร์คิโอ รามอส ทะลุเข้าไปแต่จังหวะสุดท้ายถูก ลูคัส โพดอลสกี้ เสียบล้มลงไปแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร

เยอรมัน ลงมาตั้งรับกันอย่างเหนี่ยวแน่นนนาที 67 เป็น ดาบิด บีย่า ฉีกออกไปรับบอลริมเส้นก่อนจะได้ยิงในเขตโทษแต่ นอยเออร์ ยังล้มตัวรับได้ทัน

อินทรีเหล็กสวนกลับนาที 69 จากจังหวะที่ ลูคัส โพดอลสกี้ หลุดมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดบอลมาเสาสองให้ โทนี่ โครส ตัวสำรองยิงเน้นๆ แต่ กาซียาส ยังไม่พลาดพุ่งปัดออกหลังได้ทัน

สเปน มาได้ประตูนำ 1-0 ในนาที 73 จากลูกเตะมุม ชาบี เอร์นานเดซ โยนบอลเข้าไปหน้าประตูเป็น การ์เลส ปูโยล ลอยตัวมาโขกผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เข้าไปตุงตาข่าย

0-1 Puyol 73' // Download

Germany 0-1 Spain

Simão | MySpace Video


ช่วงท้ายเกม อินทรีเหล็ก บุกหนักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จบเกม สเปน เอาชนะ เยอรมัน 1-0 กระทิงดุ เข้าไปชิงชนะเลิศกับ ฮอลแลนด์ ในวันที่ 11 กรกฎาคม ส่วน อินทรีเหล็ก ต้องไปชิงอันดับ 3 กับ อุรุกวัย ในวันที่ 10










มอเตอร์ไซค์แต่งสวยๆ

แต่งรถยนต์ รถยนต์แต่งสวย

คลับของคนรักมวยไทย

Updates Via E-Mail

Popular Posts


statistic

ฟรีบริการเก็บสถิติเว็บไซด์ FlashSanook แฟลชเกมสนุกของคนออนไลน์


ศูนย์รวมชมรมนักแต่งรถเครื่อง รูปภาพรถแต่งสวยๆและเทคนิคการแต่งเจ๋งๆ ที่นี่ tangmocy.blogspot.com
Scoopy-i สวยลงตัว ไม่ต้องแต่งมาก แถวพระรามสาม โซนิคเขียวขาว แต่งเดิมๆ แต่ดูดีมีไสตล์ ชาลีสีดำ ไสตล์สปอร์ต แจ่มสุดๆ
Mio ออลสตาร์ โอเพ่น บอย ยากูซ่า 123 % อุบลฯ เจ๋งเป้งมากๆ Ducati M900 ปี99 สีแดง โซนิคแถวบางนา แจ่มได้ใจ