MATCH HILIGHT SaturDAY’S NIGHT<31/01/2009>
premier league <2008/2009>
Man Utd 1-0 Everton
คลิป Hilight ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
คืนวันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2552
แมนฯยูฯ 1-0 เอเวอร์ตัน
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
อีกเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ดไม่มีปัญหาในการจัดทัพแม้เวย์น รูนีย์กับปาทริซ เอวร่าจะยังไม่หายเจ็บ โดยนัดนี้ถ้าเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ไม่เสียประตูเพิ่มอีกนัดก็จะทำให้ปีศาจแดงทำลายสถิติตาข่ายไม่ขาดตลอดกาล 12 นัดรวดของฟุตบอลลีกลงได้
ด้านเอฟเวอร์ตันก็บุกมาเยือนในสภาพที่น่าพอใจเมื่อกำลังสำคัญสองรายอย่างทิม เคฮิลล์กับมารูยาน เฟลไลนี่เช็คฟิตผ่านทั้งคู่
เกมเริ่มต้นโดยทีมเยือนได้เขี่ยบอล แต่เป็นเจ้าบ้านได้เสียวก่อนในนาทีที่ 4 เมื่อเฟลไลนี่เข้าหวดไมเคิ่ล คาร์ริคกลิ้งพร้อมทั้งเสียลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 27 หลา แต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้วิ่งเข้าอัดไปกระทบกำแพง
เกมช่วงต้นตกอยู่กับทีมจ่าฝูงซึ่งเปิดฉากบุกแหลกมุ่งมั่นที่จะคลำเป้าให้ได้ และเกือบทำสำเร็จในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่พาร์ค ชี ซองแตะบอลด้วยหน้าอกในเขตโทษแล้วทะลักไปเข้าทางให้คาร์ลอส เตเวซได้จิ้มยิงหกหลาที่เสาแรก ทว่าทิม ฮาวเวิร์ดอดีตนายทวารผีแดงทิ้งตัวใช้ขาเซฟได้เหลือเชื่อ
ขยับมาอีกสองนาที เนมานย่า วิดิชกองหลังเจ้าบ้านก็เลือดกลบปากเมื่อขึ้นโหม่งบอลแล้วชนเข้ากับศีรษะของเฟลไลนี่ ทว่ายังไกลหัวใจลุกขึ้นมาเล่นต่อได้อย่างไม่เป็นปัญหา
จากนั้นในนาทีที่ 26 โรนัลโด้ก็ได้โอกาสเข่นจากหน้าเขตโทษส่งบอลหนีจังหวะทิ้งตัวปัดสุดเหยียดของฮาวเวิร์ดได้แล้ว แต่โชคร้ายบอลกลิ้งไปชนเสา
เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 34 จากลูกโยนที่คาร์ริคได้พักอกแล้ววอลเลย์ทันทีระยะ 18 หลาทว่าบอลเฉี่ยวกรอบประตูออกไป
กระทั่งนาทีที่ 44 แมนฯ ยูไนเต็ดก็เจาะไข่แดงทีมท๊อฟฟี่ได้สำเร็จเมื่อคาร์ริคลากบอลเข้าเขตโทษแล้วถูกมิเกล อาร์เตต้ายื่นขาเข้าเกี่ยว แถมโทนี่ ฮิบเบิร์ตยังพุ่งมาสไลด์กองกลางทีมชาติอังกฤษให้คว่ำอีกแรง ผู้ตัดสินจึงชี้ไปที่จุดโทษก่อนที่โรนัลโด้จึงสังหารเข้าประตูพาแชมเปี้ยนนำก่อน 1-0
เท่านั้นไม่พอ ช่วงทดเวลาเจ็บคาร์ริคยังได้โอกาสตะบันลูกเรียดจากริมเขตโทษด้านซ้ายอีกทำเอาฮาวเวิร์ดต้องทิ้งตัวปัดออกมา ดีที่ว่าตามไปตะปบทันก่อนโดนดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเข้าซ้ำ จบครึ่งแรกปีศาจแดงจึงนำไปก่อนหนึ่งลูก
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่สองนาที ปีศาจแดงก็น่าจะได้ลูกโทษอีกครั้งเมื่อจอห์น โอเชแทงบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วคาร์ริคโฉบเข้าหาบอลได้ก่อนจะโดนโจลีออน เลสค็อตต์ปรี่เข้าชนเต็มๆจนถลาเป็นนกปีกหัก แต่สิงห์เชิ้ตดำกลับปฏิเสธให้เป็นลูกโทษทั้งๆที่เป็นการทำฟาวล์ที่ชัดเจนกว่าท้ายครึ่งแรกซะอีก
ทันทีที่รอดตัว เอฟเวอร์ตันก็โต้เร็วกระทั่งสตีเว่น พีนาร์ได้เข่นลูกเรียดมาจากริมเขตโทษด้านซ้าย แต่ฟาน เดอร์ ซาร์รับได้สำเร็จ
กระทั่งนาทีที่ 56 เจ้าบ้านก็เปลี่ยนแกรี่ เนวิลล์ออกให้เวส บราวน์ลงไปแทน แต่อีกสี่นาทีต่อมาบราวน์ไปทำฟาวล์พีนาร์พร้อมทั้งเสียลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา แต่มิเกล อาร์เตต้ากดลูกเรียดไปถูกฟาน เดอร์ ซาร์รับได้
ผ่านมาถึงนาทีที่ 68 ทีมเยือนก็เปลี่ยนเฟลไลนี่ออกส่งวิคเตอร์ อนิเชเบ้ลงสนาม ขณะที่เจ้าบ้านใช้บริการไรอัน กิ๊กส์แทนดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ในนาทีที่ 75 โดยที่ไม่ว่าเกมจะจบลงอย่างไรแมนฯ ยูไนเต้ดก็สร้างสถิติใหม่ของลีกไม่เสียประตูนานที่สุดแล้วหลังผ่านพ้นนาทีที่ 71
ท้ายเกมแฟนผีเริ่มเครียดเมื่อเอฟเวอร์ตันฮึดสู้ได้น่ากลัว แต่ถึงนาทีที่ 87 พาร์คโชว์ความขยันวิ่งไล่แย่งบอลได้กระทั่งหลุดเข้ากระทุ้งมุมแคบที่เส้นหลังด้านซ้าย แต่ถูกฮาวเวิร์ดหุบขาบล็อคได้อย่างเฉียดฉิว
ช่วงที่เหลือปีศาจแดงคุมจังหวะเอาไว้เป็นหลัก และในที่สุดเมื่อจบเกมเจ้าบ้านจึงกำชัย 1-0 ทำแต้มหนีเชลซีและลิเวอร์พูลที่มีคิวบุกไปดวลกันเองในวันอาทิตย์ที่แอนฟิลด์ได้เป็นห้าแต้มแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี่ เนวิลล์ (เวส บราวน์ น.56), ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, จอห์น โอเช, พาร์ค ชี-ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ (ไรอัน กิ๊กส์ น.75), ไมเคิ่ล คาร์ริค, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเวซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
สำรองไม่ได้ใช้ : โทมัส คุสแซ็ค, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ริชาร์ด เอ็คเคอร์สลี่ย์, ดาร์รอน กิ๊บสัน, แดนนี่ เวลเบ็ค
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ฟิล จาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, เลห์ตัน เบนส์, ลีออน ออสแมน, มิเกล อาร์เตต้า, ฟิล เนวิลล์, มารูยาน เฟลไลนี่ (วิคเตอร์ อนิเชเบ้ น.68), สตีเว่น พีนาร์, ทิม เคฮิลล์
สำรองไม่ได้ใช้ : คาร์โล แนช, โจเซฟ โยโบ, ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, เซกุนโด้ กัสตีโย่, แจ็ค ร็อดเวลล์, แดน กอสลิ้ง
premier league <2008/2009>
Man Utd 1-0 Everton
คลิป Hilight ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
คืนวันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2552
แมนฯยูฯ 1-0 เอเวอร์ตัน
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
อีกเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ดไม่มีปัญหาในการจัดทัพแม้เวย์น รูนีย์กับปาทริซ เอวร่าจะยังไม่หายเจ็บ โดยนัดนี้ถ้าเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ไม่เสียประตูเพิ่มอีกนัดก็จะทำให้ปีศาจแดงทำลายสถิติตาข่ายไม่ขาดตลอดกาล 12 นัดรวดของฟุตบอลลีกลงได้
ด้านเอฟเวอร์ตันก็บุกมาเยือนในสภาพที่น่าพอใจเมื่อกำลังสำคัญสองรายอย่างทิม เคฮิลล์กับมารูยาน เฟลไลนี่เช็คฟิตผ่านทั้งคู่
เกมเริ่มต้นโดยทีมเยือนได้เขี่ยบอล แต่เป็นเจ้าบ้านได้เสียวก่อนในนาทีที่ 4 เมื่อเฟลไลนี่เข้าหวดไมเคิ่ล คาร์ริคกลิ้งพร้อมทั้งเสียลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 27 หลา แต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้วิ่งเข้าอัดไปกระทบกำแพง
เกมช่วงต้นตกอยู่กับทีมจ่าฝูงซึ่งเปิดฉากบุกแหลกมุ่งมั่นที่จะคลำเป้าให้ได้ และเกือบทำสำเร็จในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่พาร์ค ชี ซองแตะบอลด้วยหน้าอกในเขตโทษแล้วทะลักไปเข้าทางให้คาร์ลอส เตเวซได้จิ้มยิงหกหลาที่เสาแรก ทว่าทิม ฮาวเวิร์ดอดีตนายทวารผีแดงทิ้งตัวใช้ขาเซฟได้เหลือเชื่อ
ขยับมาอีกสองนาที เนมานย่า วิดิชกองหลังเจ้าบ้านก็เลือดกลบปากเมื่อขึ้นโหม่งบอลแล้วชนเข้ากับศีรษะของเฟลไลนี่ ทว่ายังไกลหัวใจลุกขึ้นมาเล่นต่อได้อย่างไม่เป็นปัญหา
จากนั้นในนาทีที่ 26 โรนัลโด้ก็ได้โอกาสเข่นจากหน้าเขตโทษส่งบอลหนีจังหวะทิ้งตัวปัดสุดเหยียดของฮาวเวิร์ดได้แล้ว แต่โชคร้ายบอลกลิ้งไปชนเสา
เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 34 จากลูกโยนที่คาร์ริคได้พักอกแล้ววอลเลย์ทันทีระยะ 18 หลาทว่าบอลเฉี่ยวกรอบประตูออกไป
กระทั่งนาทีที่ 44 แมนฯ ยูไนเต็ดก็เจาะไข่แดงทีมท๊อฟฟี่ได้สำเร็จเมื่อคาร์ริคลากบอลเข้าเขตโทษแล้วถูกมิเกล อาร์เตต้ายื่นขาเข้าเกี่ยว แถมโทนี่ ฮิบเบิร์ตยังพุ่งมาสไลด์กองกลางทีมชาติอังกฤษให้คว่ำอีกแรง ผู้ตัดสินจึงชี้ไปที่จุดโทษก่อนที่โรนัลโด้จึงสังหารเข้าประตูพาแชมเปี้ยนนำก่อน 1-0
เท่านั้นไม่พอ ช่วงทดเวลาเจ็บคาร์ริคยังได้โอกาสตะบันลูกเรียดจากริมเขตโทษด้านซ้ายอีกทำเอาฮาวเวิร์ดต้องทิ้งตัวปัดออกมา ดีที่ว่าตามไปตะปบทันก่อนโดนดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเข้าซ้ำ จบครึ่งแรกปีศาจแดงจึงนำไปก่อนหนึ่งลูก
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่สองนาที ปีศาจแดงก็น่าจะได้ลูกโทษอีกครั้งเมื่อจอห์น โอเชแทงบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วคาร์ริคโฉบเข้าหาบอลได้ก่อนจะโดนโจลีออน เลสค็อตต์ปรี่เข้าชนเต็มๆจนถลาเป็นนกปีกหัก แต่สิงห์เชิ้ตดำกลับปฏิเสธให้เป็นลูกโทษทั้งๆที่เป็นการทำฟาวล์ที่ชัดเจนกว่าท้ายครึ่งแรกซะอีก
ทันทีที่รอดตัว เอฟเวอร์ตันก็โต้เร็วกระทั่งสตีเว่น พีนาร์ได้เข่นลูกเรียดมาจากริมเขตโทษด้านซ้าย แต่ฟาน เดอร์ ซาร์รับได้สำเร็จ
กระทั่งนาทีที่ 56 เจ้าบ้านก็เปลี่ยนแกรี่ เนวิลล์ออกให้เวส บราวน์ลงไปแทน แต่อีกสี่นาทีต่อมาบราวน์ไปทำฟาวล์พีนาร์พร้อมทั้งเสียลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา แต่มิเกล อาร์เตต้ากดลูกเรียดไปถูกฟาน เดอร์ ซาร์รับได้
ผ่านมาถึงนาทีที่ 68 ทีมเยือนก็เปลี่ยนเฟลไลนี่ออกส่งวิคเตอร์ อนิเชเบ้ลงสนาม ขณะที่เจ้าบ้านใช้บริการไรอัน กิ๊กส์แทนดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ในนาทีที่ 75 โดยที่ไม่ว่าเกมจะจบลงอย่างไรแมนฯ ยูไนเต้ดก็สร้างสถิติใหม่ของลีกไม่เสียประตูนานที่สุดแล้วหลังผ่านพ้นนาทีที่ 71
ท้ายเกมแฟนผีเริ่มเครียดเมื่อเอฟเวอร์ตันฮึดสู้ได้น่ากลัว แต่ถึงนาทีที่ 87 พาร์คโชว์ความขยันวิ่งไล่แย่งบอลได้กระทั่งหลุดเข้ากระทุ้งมุมแคบที่เส้นหลังด้านซ้าย แต่ถูกฮาวเวิร์ดหุบขาบล็อคได้อย่างเฉียดฉิว
ช่วงที่เหลือปีศาจแดงคุมจังหวะเอาไว้เป็นหลัก และในที่สุดเมื่อจบเกมเจ้าบ้านจึงกำชัย 1-0 ทำแต้มหนีเชลซีและลิเวอร์พูลที่มีคิวบุกไปดวลกันเองในวันอาทิตย์ที่แอนฟิลด์ได้เป็นห้าแต้มแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี่ เนวิลล์ (เวส บราวน์ น.56), ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, จอห์น โอเช, พาร์ค ชี-ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ (ไรอัน กิ๊กส์ น.75), ไมเคิ่ล คาร์ริค, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเวซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
สำรองไม่ได้ใช้ : โทมัส คุสแซ็ค, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ริชาร์ด เอ็คเคอร์สลี่ย์, ดาร์รอน กิ๊บสัน, แดนนี่ เวลเบ็ค
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ฟิล จาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, เลห์ตัน เบนส์, ลีออน ออสแมน, มิเกล อาร์เตต้า, ฟิล เนวิลล์, มารูยาน เฟลไลนี่ (วิคเตอร์ อนิเชเบ้ น.68), สตีเว่น พีนาร์, ทิม เคฮิลล์
สำรองไม่ได้ใช้ : คาร์โล แนช, โจเซฟ โยโบ, ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, เซกุนโด้ กัสตีโย่, แจ็ค ร็อดเวลล์, แดน กอสลิ้ง
Facebook
